top of page
Writer's pictureเที่ยวแปลกใหม่

ตุรกี (Turkey) ประเทศนี้นักเที่ยวพลาดไม่ได้

Updated: Oct 11, 2021

ปี 2561 (ปีนี้) เป็นปีที่ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับตุรกี ครบรอบ 60 ปี พอดี


Balloon

ประเทศตุรกี หรือ สาธารณรัฐตุรกี (Republic of Turkey) เป็นประเทศที่มีดินแดนอยู่ทั้งในทวีปยุโรป (5%) และเอเชีย (95%) มีความใกล้ชิดกับประเทศตะวันตก ทำให้ชาวตุรกีจำนวนมากเป็นคนมุสลิมที่มีหัวตะวันตกมาก ๆ ซึ่งประเทศตุรกีก็เป็นอีกจุดหมายหนึ่งที่คนไทยนิยมเดินทางมาท่องเที่ยว ยิ่งตอนนี้

ยิ่งเยอะใหญ่เลย ค่าทัวร์จากไทยไปตุรกีถูกมากกกกกกกก พูดได้เต็มปากเลยว่าคุ้มค่ามาก ๆ ๆ เนื่องจากตุรกีเป็นประเทศที่ใหญ่ (ใหญ่กว่าไทย 1.5 เท่า) มีสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมเยอะโคตร พูดได้เลยว่าครบทุกอารมณ์ฮะ จริง ๆ นะ


อยากเที่ยวตุรกี ?? คนไทยโชคดีมากครับ แค่มีหนังสือเดินทาง (และเงิน 555) ก็สามารถซื้อตั๋วไปท่องเที่ยวได้เลย คนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวตุรกีโดยได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า (free visa) ได้นานถึง 30 วัน


การเดินทาง

- สามารถบินตรงด้วยสายการบิน Turkish Airlines มีบินตรงจากกรุงเทพ-นครอิสตันบูล 2 เที่ยวบินต่อวัน (ได้ยินมาว่าอาจจะเพิ่มเป็น 3 เที่ยวต่อวัน) และ ภูเก็ต-นครอิสตันบูล 3-4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ - เดินทางแบบต่อ flight ก็มีหลายสายการบินทั้ง Qatar Airways, Royal Jordanian, Gulf Air, Etihad, Emirates หรือ Ukraine International เป็นต้น


ค่าใช้จ่าย


- เที่ยว 5-7 วัน ก็อยู่ราว ๆ 30,000 – 100,000 บาท ต่อคน รวมค่าตั๋วเครื่องบินแล้ว ทั้งนี้ราคาขึ้นอยู่กับระดับความหรูของแต่ละคน แต่บอกได้เลยว่าไม่แพง ยิ่งไปกับทัวร์ยิ่งถูก ค่าอาหารเครื่องดื่มสูงกว่าที่ไทยเล็กน้อย อย่างน้ำดื่มขวดลิตรตกขวดละ 10 กว่าบาทเอง - ค่าที่พัก จะแพงสุดก็น่าจะเป็นที่นครอิสตันบูลเนื่องจากเป็นเมืองเศรษฐกิจหลัก โดยส่วนใหญ่แล้วงบประมาณ 2,000-3,000 บาท ต่อคืนก็สามารถพักโรงแรมระดับ 4-5 ดาว ได้แล้วววว


อาหารตุรกี


ตรงนี้หละปัญหาใหญ่ของคนไทยส่วนเลย อาหารตุรกีอาจจะจืดไปหน่อยสำหรับลิ้นคนไทยเรา ก็พวกปิ้ง ๆ ย่าง ๆ เคบับ พวกนี้ ใครทานยากแนะนำให้พกน้ำจิ้มไปด้วยไม่งั้นอดตายเที่ยวไม่สนุกพอดี แต่ผมก็แนะนำให้ลองก่อนนะ (ส่วนตัวชอบมากอยู่ 555) อย่าลืมสั่ง ชาหรือกาแฟตุรกี หลังอาหารด้วยย เบียร์ตุรกีก็รสชาติเด็ดครับ


คนตุรกี

หนึ่งในสิ่งที่ประทับใจมากที่สุดเกี่ยวกับตุรกีก็อัธยาศัยไมตรีของคนตุรกีนี่แหละ ผู้คนน่ารัก อัธยาศัยไมตรีที่ต้อนรับคนต่างชาติ ยิ้มแย้ม และช่วยเหลือมาก ๆ อย่างไรก็ดี เหมือนกันทุกประเทศ ก็มีกลุ่มมิจฉาชีพที่แอบแฝงหาประโยชน์จากความมีน้ำใจของคนตุรกีตรงนี้ หลอกลวงนักท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ด้วยนะครับบบบ แต่แค่ใช้ common sense ทั่วไปก็หายห่วงฮะ


ข้อมูลทั่วไป

ที่ตั้ง - ทิศเหนือจรดทะเลดำ ทิศใต้ติดอิรัก ซีเรีย และทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทิศตะวันออกติดจอร์เจียและอาร์เมเนีย และทิศตะวันตกเฉียงเหนือติดบัลแกเรียและกรีซ

พื้นที่ - 783,562 ตารางกิโลเมตร (รวมทะเลสาบและเกาะ) เมืองหลวง - กรุงอังการา (Ankara) ประชากร - 79,814,871 ภาษาราชการ - เตอร์กิช ศาสนา - อิสลาม ร้อยละ 99 และอื่น ๆ ร้อยละ 1 หน่วยเงินตรา - ตุรกีลีร่า (Turkish Lira - TRY) อัตราแลกเปลี่ยน 1 ลีร่า เท่ากับ 7 บาท (เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2561) หากประสบปัญหาระหว่างที่อยู่ในประเทศตุรกีสามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา ได้ที่หมายเลข +90 312 437 4318 (วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00-17.00) หากเป็นกรณีฉุกเฉินติดต่อหมายเลข +90 533 641 5698 (ติดต่อได้ตลอด 24 ชม.)


ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับตุรกี

ไทยและตุรกีมีการติดต่อสัมพันธ์กันมาเป็นเวลาช้านาน โดยในบันทึก “ประวัติการค้าไทย” ของขุนวิจิตรมาตราได้กล่าวไว้ว่า สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา ไทยส่งไม้ไปขายตุรกีเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าทั้งสองประเทศเคยติดต่อค้าขายกันมาเป็นเวลานานแล้ว และมีเหรียญตราสมัยรัชกาลที่ 5 จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์พระราชวัง Topkapı ณ นครอิสตันบูล ด้วย ความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการระหว่างไทยกับตุรกีเริ่มต้นในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ (พระอิสริยยศในขณะนั้น) ได้เสด็จเยือนยุโรป และได้ใช้โอกาสนั้นเยือนและได้เข้าเฝ้าสุลต่านอับดุลฮามิดที่ 2 เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับอาณาจักรออตโตมัน


ไปเที่ยวกันเลย !!


1. Ankara (กรุงอังการา)

เมืองหลวงตุรกีในใจกลางดินแดนอานาโตเลีย ภายหลังที่นาย Mustafa Kemal Atatürk (มุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก) บิดาผู้ก่อตั้งและประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐตุรกี จากจักรวรรดิออตโตมันที่แพ้สงครามโลกครั้งที่ 1 และถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ในปี 1923 นายอตาเติร์กฯ ได้เลือกอังการาเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่เนื่องจากเหตุผลทางด้านภูมิศาสตร์อยู่ระหว่างเขาใจกลางประเทศ ยากต่อการถูกชาติอื่นโจมตี ทำให้เมืองชนบทที่แห้งแล้งกลายเป็นเมืองมันสมองของประเทศไป


ในย่านเมืองเก่าของกรุงอังการา เป็นที่ตั้งของปราสาทและป้อมปราการ (Ankara Castle) ซึ่งไม่มีใครสามารถฟันธงได้ว่า ป้อมปราการนี้ถูกสร้างในปีไหนแต่ที่แน่ ๆ มีอายุกว่าพันปี อยู่ในจุดที่สูงสุดของกรุงอังการา สามารถมองเห็นได้ทั้งเมือง ปัจจุบัน เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ/ชมพระอาทิตย์ตกของชาวอังการา

ปราสาทและป้อมปราการ (Ankara Castle)

Nallıhan Bird Sanctuary เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้จักและไม่ได้รับการส่งเสริมจากทางการพอ แต่ผมว่าสวยและคุ้มค่าที่ไปดู ถ้ามีเวลา และโดยเฉพาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการดูนก เขตรักษาพันธุ์นกนี้ห่างจากใจการกรุงอังการาเกือบ 100 กว่ากิโลเมตร มีเป็นที่อยู่ของนกกว่า 200 สายพันธ์ุ วิวสวย ภูเขามีสีสันแปลก ๆ ไปแล้วเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกเลย

Nallıhan Bird Sanctuary (เขตรักษาพันธุ์นกนาลึฮาน)

Kocatepe Mosque (มัสยิดโคจาเทเป) หนึ่งในสถานที่เที่ยว และเป็นมัสยิดมี่ใหญ่ที่สุดของกรุงอังการา เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1967 สร้างเสร็จปี 1987 เป็นการผสมผสานสถาปัตยกรรมออตโตมันยุคเก่าและใหม่เข้าด้วยกัน

 หนึ่งในสถานที่เที่ยว และเป็นมัสยิดมี่ใหญ่ที่สุดของกรุงอังการา เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1967 สร้างเสร็จปี 1987 เป็นการผสมผสานสถาปัตยกรรมออตโตมันยุคเก่าและใหม่เข้าด้วยกัน
Kocatepe Mosque (มัสยิดโคจาเทเป)

2. Mount Nemrut (ยอดเขาเนมรุต) มรดกโลกความสูง 2,314 เมตร ห่างจาก Aleppo (อเลปโป) ซีเรียเพียง 400 กว่ากิโลเมตร มาเริ่มแปลกใหม่กัน ยอดเขาเมนรุตอยู่ในจังหวัดอดึยามาน (Adiyaman) สมัยก่อน ประมาณปี 160 ก่อนคริสตกาล – ค.ศ. 70 เป็นที่ตั้งของอาณาจักรคอมมาจีนี (Kingdom of Commagene) ซึ่งภายหลังกลายเป็นอาร์เมเนีย

อาณาจักรคอมมาจีนีเติมโตและทลายลงในช่วงเวลาสั้น ๆ และค่อย ๆ ถูกลืมหายไปจากประศาสตร์จนถึงปี ค.ศ. 1883 เมื่อนักโบราณคดีชาวเยอรมันไปขุดพบ


สุสารศักดิ์สิทธิ์ของกษัตริย์ Antiochus I (อันติออคัส ที่ 1)

ยอดเขาเนมรุต เป็นที่ตั้งสุสารศักดิ์สิทธิ์ของกษัตริย์ Antiochus I (อันติออคัส ที่ 1) ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่และโด่งดังที่สุดของอาณาจักรคอมมาจินี ซึ่งก่อนสิ้นพระชนม์ท่านได้บัญชาให้สร้างสุสารศักดิ์สิทธิ์เป็นที่ประทับสุดท้ายขึ้นบนยอดเขานี้


Mount Nemrut (ยอดเขาเนมรุต)

การขึ้นยอดเขาเนมรุตควรขึ้นตอนเช้ามืดเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น สวยมาก ๆ เลยขอบอก ทางเดินขึ้นเขาก็สวยงาม คุ้มค่าครับ แม้ว่าเป็นจังหวัดที่ติดกับซีเรียแต่ก็ไม่ได้อันตรายอะไร


ทางเดินขึ้นยอดเขาเนมรุต

3. Çay (ชาตุรกี) อ่านว่า "ชาย"

ตุรกีน่าจะเป็นชาติที่ดื่มชามากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกแล้ว คนหนึ่งตกวันละ 7-8 แก้วได้ฮะ ไปไหน ทานอะไร ก็จะมีชามาเสริฟให้ตลอด

Çay

4. Antalya (อันทัลยา) เวลาพูดออกเสียงว่า อันทาเลีย ภูเก็ตแห่งตุรกี

จังหวัดติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียนยาว 600 กิโลเมตร เป็นจังหวัดท่องเที่ยวหลักของตุรกีเลย นักท่องเที่ยวต่างชาติหลักคือ อังกฤษ สแกน เยอรมัน และรัสเซีย จังหวัดนี้ติดกรีซ สามารถมองเห็นเกาะกรีซได้เลย

มีเมืองโรมันโบราณเต็มไปหมด จากในใจกลางสามารถมองเห็นเทือกเขา Taurus (ทอรอส) เห็นแล้วมันน่ากระโดดลงน้ำจริง ๆ

เทือกเขา Taurus (ทอรอส)

ย่านเมืองเก่าเป็นสถานที่น่าเดินมาก ๆ โดยเฉพาะตรงท่าเรือเก่า สามารถเห็นสถาปัตยกรรมจากยุคต่าง ๆ ตั้งแต่โรมันถึงออตโตมัน มีร้านอาหาร ผับ และคาเฟ่ มากมายเลย ชิลตรงนี้ได้ทั้งวัน

Old City Marina (ท่าเรือเมืองเก่า)

Side (ซิเด) เมืองกรีกโบราณ ตั้งแต่เมื่อ 700 ปีก่อนคริสตกาล ตั้งอยู่ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ปัจจุบัน เป็นย่านร้านอาหารและมีชุมชนชาวประมง ในรูปคือวิหารอพอลโล

Side (ซิเด)

น้ำตก Duden (ดูเดน) เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัด มาจากป่าและไหลลงทะเล สามารถชมได้ของในตัวเมืองเลย สวยมั้ยครับ

น้ำตก Duden (ดูเดน)

โรงละคร Aspendos (อัสเปนโดส) นี่คือ highlight ของคนที่ชื่นชมประวัติศาสตร์เลย โรงละครนี้เป็นโรงละครโรมันที่สมบูรณ์ที่สุดในอานาโตเลียและหนึ่งในโรงละครที่สวยที่สุดในโลก เคยถูกอเล็กซานเดอร์มหาราชยึดเมื่อ 333 ปีก่อนคริสตกาล โรงละครนี้สามารถจุคนที่ได้ทั้งหมด 15,000 มันสมบูรณ์จนปัจจุบันยังใช้จัดการแสดงดนตรีอยู่เลย

โรงละคร Aspendos (อัสเปนโดส)

น้ำใสขนาดนี้ใครจะห้ามใจไหววว


ไปดำน้ำที่เมือง Kaş

5. Cappadocia (คัปปาโดเกีย)

มรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี

Love Valley

เมืองคัปปาโดเกีย แปลว่า ม้าอันสง่างาม แม้ว่าปัจจุบันไม่ใช่สถานที่เพาะพันธ์ุม้าอีกต่อไป ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องทัศนียภาพที่สวยงามและแปลกตาไม่เหมือนที่ไหน ซึ่งภูมิประเทศที่แปลกตานั้นเกินขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟ พ่นลาวาปกคุลมพื้นที่โดยรอบหลายร้อยกิโลเมตรเกิดการทับถมเมื่อหลายล้านปีก่อน เมื่อลาวาเย็นลงและแข็งตัว ผ่านการกัดกร่อนจากแดด ฝน และลม ทำให้ดินแดนนี้เกิดภูมิประเทศที่แปลกตา

fairy chimneys รูปร่างสวยงาม พบเห็นได้ทั่วเมือง

ใครที่เคยไปคัปปาโดเกียมักจะถูกถามว่าได้ขึ้นบอลลูนไหม!??!? ใช่ครับ highlight ของการไปคัปปาโดเกียคือ “ขึ้นบอลลูน” ทุก ๆ วัน ในช่วงเช้ามืดจะมีบอลลูนว่า 30 ลูก พานักท่องเที่ยวขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้น คิดดูว่า ได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นบวกกับชมทัศนียภาพที่สวยงามและแปลกตาเนียมันจะฟินขนาดไหนนนนน


แต่การขึ้นบอลลูน ไม่ใช่ว่า จะขึ้นได้ง่าย ๆ นะฮะ มันอยู่ที่สภาพอากาศของวันนั้น ๆ ด้วย ถ้าวันนั้น ลมแรง ฝนตก หรือ หิมะตก ก็อดนะครับ บางคนยอมอยู่เพิ่มอีก 2-3 วัน ก็ไม่ได้ขึ้นเลย ผมก็ต้องไปถึง 3 ครั้ง กว่าจะได้ขึ้น


ต้องตื่นกันตั้งแต่ตี 3 เพื่อเตรียมตัวมาขึ้นให้ทันก่อนแสงแรกตอนพระอาทิตย์ขึ้น

ช่วง high season (ฤดูร้อน) สถานที่นี้ จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะพี่เกาหลีและจีน ใครมาแล้วต้องการขึ้นบอลลูน แนะนำให้จองแต่เนิ่น ๆ นะครับ เพราะอาจจะเต็มได้ กฎหมายของตุรกีกำหนดว่าต่อวันให้บอลลูนขึ้นได้พร้อมกันไม่เกิน 100 ลูก เพื่อความปลอดภัย


การเลือกบริษัทบอลลูน นี่ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง เพราะมันมีหลายราคาหรือเกิน ตั้งแต่ 80 ยูโรจนถึง 200 กว่ายูโร แล้วมันต่างกันตรงไหน ?? ง่าย ๆ เลยครับยิ่งถูก จำนวนคนต่อบอลลูนยิ่งเยอะ (ประมาณ 20-25 คนต่อบอลลูน) ราคาแพงคนก็จะน้อยลง (ประมาณ 10 คน) ผมแนะนำเน้นราคาที่แพงหน่อย เนื่องจากบริษัทที่แพงจะมี Pilot ที่ชำนาญและมีงบบำรุงอุปกรณ์มากกว่า ชีวิตเราสำคัญสุดครับ อย่าเอาแต่ถูก


แนะนำให้อยู่สองคืนเพื่อดูบอลลูนจากข้างล่างด้วยนะครับสวยอีกแบบ

มุมนี้จากโรงแรม Sultan Cave Suites

6. เมืองโบราณ Aphrodisias (อะโฟรดีซีอัส) มรดกโลกอีกแล้ว

Tetrapylon (ประตูเมืองเตตราไพลอน)

ตั้งอยู่ในจังหวัด Aydın (ไอดึน) เป็นเมืองกรีกโบราณ ตั้งชื่อตาม อโฟรไดท์ หรือ อโฟรไดที (Aphrodite) เทพีแห่งความรัก ความงาม และสุนทรียสถาน สร้างขึ้นใน300 กว่าปีก่อนคริสตกาล

จุดเด่นสุด ๆ ของเมือง ประตูเมืองที่สวยงามมาก ๆ

The Odeon (ละครโอเดียน) เป็นจุดเด่นหนึ่งของเมืองคือโรงละครโอเดียนนี้ สามารถจุคนได้ถึง 30,000 คน แปลว่าเมืองนี้วันที่รุ่งเรืองที่สุดน่าจะมีประชากรกว่า 300,000 คนเลย

The Odeon (ละครโอเดียน)

7. Yedigöller National Park (อุทยานแห่งชาติเยดิโกเลอร์) ป่าน้อยหลากสี

ไม่มีสัญญามือถือนะครับ

ถ้าให้แปลตรงตัวเลยคืออุทยานแห่งชาติเจ็ดทะเลสาบ ซึ่งอุทยานนี้ประกอบด้วย 7 ทะเลสาบเล็ก

อยู่ระหว่างกรุงอังการาและนครอิสตันบูล ช่วงฤดูใบไม้ร่วงคือช่วงที่สวยที่สุด ถ้าจะไปต้องไปเดือนตุลาคมนะครับ

8. Troy (ทรอย)

เวลาคนพูดถึงเมืองทรอย ทุกคนคงก็เอ่อออออ หนังที่ Brad Pitt แสดงใช่มั้ยยยย หรือ Helen of Troy หรือแม้แต่ถุงยาง Torjan นั่นหละครับบบ อยู่ตุรกีนี่หละ แต่ที่ลืมไม่ได้เลยคือตำนานม้าไม้ที่กษัตริย์แห่ง Sparta (สปาร์ตา) ส่งให้กับกษัตริย์กรุงทรอย โดยการซ่อนทหารข้างในเพื่อชิงตัวลูกสาวเฮเลนคืน

ไหน ๆ มาแล้วต้องขึ้นไปถ่ายหน่อยยย

สภาพเมืองทรอย ปัจจุบันก็ไม่เลือกอะไรมากแล้ว แต่สำหรับคนที่ชอบหรือเรียนประวัติศาสตร์อย่างผมยังไงก็ฟินนนนนน

ซากเมืองทรอย

ในใจกลางจังหวัด Çanakkale (ชานัคคาเล) ที่เมืองทรอยตั้งอยู่ในปัจจุบันก็มีม้าไม้ตัวที่ใช้ถ่ายทำจากหนังฮอลลีวูดตั้งให้นักท่องเที่ยวไปถ่ายรูป

ไม้แห่งสงคราม Trojan

9. Hattusa (ฮาตตูช่า) เมืองหลวงแห่งอาณาจักรฮิตไทต์ และสถานที่เกิดสนธิสัญญาสันติภาพฉบับแรกของโลก ครั้งหนึ่งเมื่อ 1,500 ปีก่อนคริสตกาล อาณาจักรฮิตไทต์เจริญรุ่งเรืองสุด ๆ ไปเลย สามารถพูดได้เลยว่าเทียบเท่ากับกรีกโบราณ และ อียิปต์โบราณ มีการสู้รบกับอียิปต์โบราณ (The Battle of Kadesh) เป็นเวลาหลายปี ไม่มีใครชนะ ต่างฝ่ายจึงต้องถอนทัพและทำสัญญาเป็นพันธมิตรต่อกัน และได้เขียนสนธิสัญญาสันติภาพระหว่างสองอาณาจักรขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษรโดยจารึกลงบนแผ่นทองแดง ถือกันว่าเป็น สนธิสัญญาสันติภาพที่เก่าแก่ที่สุดของโลก ชื่อว่า “Treaty of Kadesh” ปัจจุบันเก็บแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์โบราณคดีนครอิสตันบูล

ประตูสิงโตเข้าเมือง

ที่น่าสนใจคือ อยู่ดี ๆ อาณาจักรฮิตไทต์ ก็ล่มสลายและหายไป โดยไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าทำไม เลือกให้เพียงทฤษฎีและซากเมือง

ชากอารยธรรมอาณาจักรฮิตไทต์

10. Isparta (อึสปาตา)

เมืองแห่งดอกไม้

เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องดอกไม้มาก ๆ โดยเฉพาะกุหลาบ ซึ่งปลุกที่เมืองนี้มากที่สุด แต่ผมเฉย ๆ กับกุหลาบ 5555 ที่ไปเมืองนี้จริง ๆ ก็เพื่อไปดูทุ่งดอกลาเวนเดอร์ เห็นเพื่อน ๆ ในเฟสไม่ไปที่ฝรั่งเศสก็ญี่ปุ่น แต่เรามันพวกคนแปลก ต้องไปดูที่ตุรกีแทน 555 . ถ่ายดอกไม้ไม่ค่อยเป็น ไม่มีความรู้เรื่องดอกไม้ด้วย ชมรูปละกัน 555


11. House of the Virgin Mary (บ้านของพระแม่มารีย์) ภายหลังจากที่พระเยซูเสียชีวิต พระแม่มารีย์ได้ติดตามบาทหลวงจอห์น (Saint John) ไปอยู่เมือง

เอเฟซุส (Ephesus) และอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้จนเสียชีวิตเมื่อปี ค.ศ. 48

สภาพบ้าน....เขาไม่ให้ถ่ายข้างใน

12. Pamukkale (ปามุคคาเล) ประสาทปุยฝ้าย มรดกโลก

คำว่า ปามุคคาเล ในภาษาตุรกีแปลว่า ประสาทปุยฝ้าย นี่คือความงามที่แปลกและไม่มีใครเหมือน เกิดขึ้นจากแร่ธาตุน้ำพุร้อนไหลลงมาจากภูเขา เมื่อเย็นระเหยก็กลายเป็นหินปูนสีขาวสวยเป็นชั้น ๆ เต็มภูเขา ที่นี่จึงเป็นสปายุคแรก ๆ ของโลกเลยก็ว่าได้ ว่ากันว่า แม้แต่พระนางคลีโอพัตราก็เคยเสด็จฯ มาแล้ว

เชื่อกันว่าน้ำแร่ที่นี่สามารถรักษาโรคได้มากมาย


13. Hierapolis (เฮียราโพลิส)

เมืองต่างอากาศข้างบนปามุคคาเล

แหม่ ไหน ๆ ก็มีภูเขาน้ำพุที่มีสรรพคุณรักษาโรคเยี่ยมยอดขนาดนั้น กษัตริย์ยูเมเนสที่ 2 (Eumenes II) แห่งอาณาจักรเพอร์กามอน (Pergamon) มีบัญชาให้สร้างเมืองตากอากาศนี้ขึ้น เมื่อ 200 ปีก่อนคริสตกาล

จุดเด่นของเมืองคงหนีไม่พ้นโรงละครกลางแจ้ง ซึ่งใหญ่โตและสวยงาม


14. Laodikya (ลาดิเกีย)

เมืองอาภัพใกล้ ๆ ปามุคคาเล

ทำไมถึงอาภัพ ? เพราะคนส่วนใหญ่ที่ไปเที่ยวปามุคคาเล ไม่หยุดแวะไง เวลาน้อยต้องไปดูที่อื่น ผมเข้าใจ แต่อย่างไรก็ดี เมืองนี้สวยและครบมาก ๆ ทั้งโรงละคร โรงยิม และโรงอาบน้ำ ที่นี่มีหมด

ซากเมืองลาดิเกีย

เมืองลาดิเกียตั้งอยู่ไม่กี่กิโลเมตรจากปามุคคาเล สามารถมองเห็นได้เลย เคยเจริญรุ่งเรือง แต่ก็ถูกรุกรานหลายครั้ง และวันหนึ่งก็ถูกหลงลืมไปจากประวัติศาสตร์ ก่อนที่จะเริ่มมีการขุดค้นคว้าใหม่

ซากเมืองลาดิเกีย

15. Istanbul (นครอิสตันบูล) มหานคร 2 ทวีป นี่หละหนึ่งในมหานครที่ว่ากันว่าสวยที่สุดในโลก ในปี ค.ศ. 330 จักรพรรดิคอนสแตนตินแห่งโรมันได้ย้าย เมืองหลวงมาอยู่ที่เมืองไบแซนทิอุม หรือ “กรุงโรมใหม่” (Nova Rome) ได้เปลี่ยนชื่อเมืองเป็นกรุงคอนสแตนติโนเปิล (Constantinople) ตามชื่อ ของพระองค์ คาบสมุทร ออนาโตเลียจึงได้เข้าสู่ยุคไบแซนไทน์หรือโรมันตะวันออกและได้เสื่อมลงเมื่อ ออตโตมันขยายอิทธิพลเข้ามา ในอนาโตเลีย ยุคไบแซนไทน์ ที่มีอายุกว่า 1,100 ปี สิ้นสุดลงเมื่อสูญเสียกรุงคอนสแตนติโนเปิลให้แก่ออตโตมัน (Ottoman) เมื่อปี ค.ศ.1453 ก่อนย้ายเมืองหลวงไปที่กรุงอังการา

ตลาดเก่า Buyuk Valide Han

รูปถ่ายบนดาดฟ้าของตลาดเก่า Buyuk Valide Han ปัจจุบันปิดไม่ให้ขึ้นแล้ว จากตรงนี้สามารถมองเห็นทวีปยุโรปซ้ายมือ ทวีปเอเชียขวามือ และช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus) อยู่ตรงกลาง


Galata Tower (หอคอยกาลาตา) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1348 สร้างอยู่จุดที่สูงสุดของย่านเมืองเก่า เพื่อเป็นหอคอยสังเกตการณ์เผื่อมีเหตุฉุกเฉิน อาทิ ไฟไหม้ ปัจจุบัน เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวได้

Galata Tower (หอคอยกาลาตา)

Istikal Caddesi (ถนนอิสทิกลาล) ถนนคนเดินที่เชื่อมระหว่างย่านเมืองเก่ากับจัตุรัสทักซิม (taksim square) รอบด้านมีร้านค้ามากมาย คนเดินเยอะมากทั้งวันทั้งคืน มีรถรางสายประวัติศาสตร์วิ่งอยู่ตรงกลาง ตอนเดินระวังดี ๆ นะฮะ

Istikal Caddesi (ถนนอิสทิกลาล

Sultan Ahmet (สุลต่านอาเหม็ด)ย่านเมืองเก่าแห่งนครอิสตันบูล บริเวณนี้เป็นเหตุมรดกโลก ด้านซ้ายคือฮาเกียโซเฟีย (hagia sophia) และขวาคือ มัสยิดสีน้ำเงิน (blue mosque) แค่เดินในนี้ก็หมดวันแล้วววว

ย่าน Sultan Ahmet (สุลต่านอาเหม็ด)

Hagia Sophia (มหาวิหารโซเฟีย หรือ ฮาเกียโซเฟีย) เป็นวิหารสำคัญของไบแซนไทน์ที่ยังหลงเหลืออยู่ เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง อายุกว่า 1,500 ปี แรกสุดเป็นโบสถ์ และเปลี่ยนเป็นมัสยิดในยุคออตโตมัน สุดท้ายเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน

Hagia Sophia (มหาวิหารโซเฟีย หรือ ฮาเกียโซเฟีย)

ภายในวิหารยังสวยงามและยิ่งใหญ่อยู่เลย

Ortakoy (โอร์ทาเคอย์) อดีตเป็นท่าเรือและหมู่บ้าน ปัจจุบันเป็นย่านท่องเที่ยวกลางคืนของชาวตุรกีและชาวต่างชาติ มีร้านอาหาร และผับให้เลือกเยอะ ราคาสูง รถติด แต่มีจุดเด่นคือมัสยิดที่หันหน้าไปทางฝั่งทวีปเอเชีย และมีสะพานข้ามเป็น background

Ortakoy (โอร์ทาเคอย์)

Topkapı Palace (พระราชวังโทพคาปึ) สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1465 เป็นจุดศูนย์อำนาจของอาณาจักรออตโตมันหลายร้อยปี ซึ่งเมื่อครั้งที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จเยือนกรุงคอนสแตนติโนเปิลอย่างเป็นทางการ เมื่อปี ค.ศ. 1891 ทางการออตโตมันก็ใช้พระราชวังแห่งนี้ต้อนรับและพบกับสุลต่าน

Topkapı Palace (พระราชวังโทพคาปึ)

Blue Mosque or Sultan Ahmet Mosque (มัสยิดสีน้ำเงิน หรือ มัสยิดสุลต่านอาเหม็ด) หนึ่งในมัสยิดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1616 มันยิ่งใหญ่มาก ๆ จริง ๆ น่าจะเป็นเพราะสุลต่านไม่ต้องการให้ด้อยไปกว่าฮาเกียโซเฟียซึ่งตั้งอยู่ห่างไปไม่กี่เมตร เข้าฟรีครับแต่ต้องดูเวลาให้ดีก่อน เพราะมีช่วงเวลาปิดละหมาดวันละ 5 ครั้ง และต้องแต่งตัวเรียบร้อยนะครับบบบบ


Blue Mosque or Sultan Ahmet Mosque (มัสยิดสีน้ำเงิน หรือ มัสยิดสุลต่านอาเหม็ด)

วิวจากห้องนอน ณ โรงแรม Arcadia Blue นอนดู มัสยิดสีน้ำเงิน (blue mosque) ให้มันสะใจไปเลย ถ้าจองต้องเน้นกับโรงแรมว่าเอาชั้นบนสุดวิว blue mosque นะครับ

วิวจากโรงแรม Arcadia Blue

16. เมืองกรีกโบราณ Ephesus (เอเฟซุส) 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก (Seven Wonders of the Ancient World) เมืองนี้หละ สวยสุด สมบูรณ์สุด และยิ่งใหญ่ที่สุดในตุรกีเลยมั้ง สร้างเมื่อประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล แล้วไปเจริญสุด ๆ ในยุคของโรมัน เป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญของโลกทะเลเอเจียน (Aegean Sea) และยังเป็นเมืองสำคัญทางศาสนาอีกด้วย

หอสมุดเซลซัส (Library of Celsus)

ที่สมบูรณ์สุด และเป็น highlight ของเมืองก็นี่หละ หอสมุดเซลซัส (Library of Celsus) นักท่องเที่ยวมาเพื่อดูสิ่งนี้


17. Safranbolu (ซาฟรานโบลู)

เมืองมรดกโลกระหว่างทาง กรุงอังการา-นครอิสตันบูล

นักท่องเที่ยวหลายคนไม่ค่อยได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองนี้เท่าไร เนื่องจากเวลาเที่ยวที่จำกัด ก็น่าเสียดายนะ เพราะเมืองนี้คือเมืองออตโตมันที่ยังมีชีวิตอยู่ใน มีการบูรณะและรักษาเมืองนี้จนได้รับมรดกโลก เป็นการผสมผสานสถาปัตยกรรมออตโตมันยุคเก่าและใหม่เข้าด้วยกันอย่างลงตัวเลย การได้ไปเดินในเมืองให้ความรู้สึกไปเดินในยุคออตโตมัน


18. İnceburun Lighthouse (ประภาคารอินเจบูรูน) สูงสุดบนแผนที่ของตุรกี ประภาคารนี้ตั้งแต่อยู่ในจังหวัดซีโนป (Sinop) อยู่ยอดหน้าผาสูงสุด ติดทะเลดำ (black sea) บนแผนที่ตุรกี ไม่ค่อยมีคนมาถึงเท่าไร แต่ผมว่าสวยมาก ๆ ๆ ได้ไป camping ที่หน้าผานอนดู ประภาคารและทะเลดำน้ำใส ๆ ไปในเวลาเดียวกัน ป้าที่ดูแลประภาคารก็น่ารักมาก ๆ ดูแลเราทุกอย่างเลย

İnceburun Lighthouse (ประภาคารอินเจบูรูน)

ควรไปมั้ย? ถ้ามีเวลาเหลือ ๆ ก็ควรไปครับ แต่ต้องขับรถไปนะครับ


19. จังหวัด Trabzon (แทรปซอน)

สวิตเซอร์แลนด์แห่งทะเลดำ


ด้วยภูเขาที่เขียวชุ่มชื้น สวยบวกกับภูมิทัศน์ชายฝั่งทะเลดำทำให้ความสวยงามของที่ถูกขนานนามเลยว่าจังหวัด Trabzon (แทรปซอน) คือสวิตเซอร์แลนด์แห่งทะเลดำ


Sumela Monastery (อารามซูเมลา) อารามงดงามภายในสวิตเซอร์แลนด์แห่งตุรกี อารามซูเมลาสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่พระแม่มารีย์ เมื่อปี ค.ศ. 386 ซึ่งเป็นยุคไบแซนไทน์ (Byzantine Empire) ความโดดเด่นคือการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยในยุคนั้นไปสร้างอารามติดอยู่บนเขาดูน่าทึ่งมาก ๆ

Sumela Monastery (อารามซูเมลา)

Uzungöl (ทะเลสาบอูซูน) อูซูนกูลแปลว่าทะเลสาบยาว ด้วยสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สวยงามทำให้ทะเลสาบนี้เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศ

Uzungöl (ทะเลสาบอูซูน)

20. Amasya (อามาสยา) เวลาพูดออกเสียงว่า อามาเซีย ความงดงามแห่งดินแดนทะเลดำ เมืองนี้แม่น้ำจะแบ่งเมืองออกเป็นสองส่วนภูเขา ซึ่งอาคารรอบแม่น้ำอายุกว่า 100 ปี ออกแบบสไตล์สถาปัตยกรรมออตโตมัน การได้มาเดินรอบในเมืองนี้ ให้ความรู้สึกย้อนยุคมาก ๆ ครับ

ในยุคออตโตมัน เมืองนี้เป็นเมืองที่สุลต่านจะส่งเจ้าชายไปปกครองเพื่อสั่งสมประสบการณ์

ปัจจุบันอาคารต่าง ๆ ได้รับการบูรณะ และเปลี่ยนเป็นร้านอาหาร ผับ และโรงแรม สามารถมองเห็นสุสานหินของกษัตริย์ Pontic (ปอนติก) ซึ่งกำเนิดเมื่อ 280 ปีก่อนคริสตกาล


21. Cilandiras Bridge (สะพานจิลานดิราส) สะพานโบราณสถาปัตยกรรม Balkan (บอลข่าน) ในจังหวัด Uşak (อูชัก) อายุหลายพันปี

Cilandiras Bridge (สะพานจิลานดิราส)

ถามว่าสวยมั้ย ? ตอบได้ว่าสวย แต่ไม่คุ้มที่จะเดินทางไกลเพื่อไปดู ถ้าเป็นทางผ่านโอเคแวะได้ครับ




📷🚖📷🚘📷🚁📷🚗📷🚐📷🛴📷🚅📷🚢📷🛩️📷🚤📷⛵📷🛥️

ถ้าชอบช่วย Like, Comment และ Share เพื่อกำลังใจทำต่อด้วยครับบบบ ขอบคุณครับบบ


Comentários


bottom of page