top of page
  • Writer's pictureเที่ยวแปลกใหม่

เที่ยวเมืองร้างเชอร์โนบิล (Chernobyl) หายนะนิวเคลียร์รุนแรงที่สุดในโลก

Updated: Nov 5, 2021


เวลาที่ได้ยินชื่อเมืองเชอร์โนบิล เชื่อเลยว่าหลาย ๆ คนก็น่าจะเคยได้ยินกัน เพราะสถานที่นี้เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว ได้เกิดโศกนาฏกรรมจากภัยพิบัติทางนิวเคลียร์ครั้งร้ายแรงที่สุดของโลก และเปลี่ยนมุมมองของโลกที่มีต่อพลังงานนิวเคลียร์ไปตลอดกาล


3 ทศวรรษผ่านไป…..จากเมืองร้างต้องห้ามสู่สถานที่ท่องเที่ยวแปลกใหม่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นหมื่นเป็นแสน.....เป็นไปได้ไง?....วันนี้ #เที่ยวแปลกใหม่ จะพาเที่ยวเมืองร้างแห่งนี้ พร้อมข้อมูลต่าง ๆ ที่ควรทราบหากสนใจไปเที่ยว (อ่านไม่นานหรอก..สัญญา)





ชิงช้าสวรรค์ในสวนสนุก Pripyat แลนด์มาร์คที่ดังที่สุดของเชอร์โนบิล

เมืองเชอร์โนบิลเนี่ย เป็นสถานที่ที่อยู่ใน bucket list ของตัวเองมาหลายปีมาก ๆ ตั้งแต่จำความได้ก็ได้ยินชื่อเมืองนี้มาตลอด ไม่ว่าจะเป็นจาก ห้องเรียน ข่าว นิยาย ภาพยนตร์ การ์ตูน หรือ เกมส์ ก็มักจะมีการพูดถึงเหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งนั้นอยู่บ่อยครั้ง เมื่อบทความที่แล้วผมที่เขียนถึงประสบการณ์ไปชมบอลนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมป์เปียนลีก 2018 ที่ยูเครน ตอนนั้นก็ได้พยายามหาทางไปชมเมืองนี้ จำได้เลยว่าโทรไปกว่า 10 บริษัททัวร์แต่มันเต็มหมดเลย..เจ็บบบบใจมาก...แล้วก็อด...แต่ก็ได้สัญญากับตัวเองว่ายังไงฉันจะต้องไปให้ได้.......และแล้วก็ได้กลับไปอีกครั้ง


โรงไฟฟ้าระเบิดก่อนพิธีเปิดสวนสนุก Pripyat เพียง 5 วัน


เกิดอะไรขึ้นที่เชอร์โนบิล ?

ย้อนรอย โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดเมื่อปี ค.ศ. 1986


สำหรับท่านที่ไม่ทราบว่ามันคือเหตุการณ์อะไร จะอธิบายสั้น ๆ ให้ครับ

เมื่อวันที่ 25 เมษายน 1986 ที่เมืองเชอร์โนบิล ทางเหนือของประเทศยูเครน (สมัยนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต) อยู่ห่างจากกรุงเคียฟ 130 กม. วันนั้น ทีมวิศวกรของทางการโซเวียตได้ตรวจสอบการทำงานของระบบทำความเย็นของเตาปฏิกรณ์หมายเลข 4 โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล แต่การทดลองใช้เวลานานกว่าที่คิดและลากยาวไปถึงช่วงกลางคืน จนถึงช่วงเช้ามืดของวันที่ 26 เกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้น เมื่ออยู่ดี ๆ แรงดันน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถควบคุมได้ บวกกับระบบตัดการทำงานอัตโนมัติดันขัดข้องไม่ทำงาน ความร้อนสูงกว่า 2,000 องศาเซลเซียส ส่งผลให้แท่งเชื้อเพลิงที่เตาปฏิกรณ์หมายเลข 4 หลอมละลายและระเบิดขึ้น


หน้าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล เตาปฏิกรณ์หมายเลข 4 ปัจจุบันมีโครงสร้างปิดทับเพื่อกันสารกัมมันตรังสีรั่วไหล

การระเบิดทำให้สารกัมมันตรังสี จำนวน 5% จาก 200 ตัน ลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ลงสู่แม่น้ำและผืนดิน ทั่วทวีปยุโรปกว่า 4 ล้านตารางกิโลเมตร และส่งผลให้เจ้าหน้าโรงไฟฟ้าเสียชีวิตทันทีหลายสิบคน และคร่าชีวิตประชาชนกว่า 4,000 ชีวิตที่อาศัยอยู่ละแวกนั้น จากการที่ร่างกายได้รับสารกัมมันตรังสีจำนวนมาก และด้วยโรงมะเร็งหายากหลังจากเหตุระเบิดไม่นาน



1 วันหลังจากเหตุระเบิด ทางการโซเวียตต้องอพยพประชาชนประมาณ 336,000 คนออกจากพื้นที่อันตราย (ปัจจุบันคือยูเครน เบลารุส และรัสเซีย) โดยแจ้งว่าเป็นการอพยพชั่วคราวไม่กี่วันจะอนุญาตให้กลับไป....แต่ถึงวันนี้ ก็ 30 กว่าปีแล้ว ทางการยังไม่อนุญาตให้ใครกลับไปเลย.......ทำให้เมืองนี้ถูกหยุดเวลาเอาไว้ตั้งแต่ปี 1986


เมืองร้าง pripyat ตอนเหนือของโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล ปัจจุบันถูกธรรมชาติทวงคืนไปแล้ว

ทางการยูเครนคาดว่าอาจต้องใช้เวลาอีกประมาณ 24,000 ปี กว่าการปนเปื้อนจะลดลงไปอยู่ในระดับปกติและสามารถอยู่อาศัยได้อีกครั้ง


โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในเมือง มีข้าวของที่ถูกทิ้งไว้มากมาย

ความเสียหายในครั้งนั้นประเมินกันว่า มีหายนะร้ายแรงกว่าการทิ้งระเบิดปรมาณูที่ #นางาซากิ และ #ฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนสิงหาคม 1945 ถึง 400 เท่า



เที่ยวเชอร์โนบิลกัน !


จบเรื่องเครียด ๆ มาอ่านดูต่อกันดีกว่า ทำไมที่นี่น่าไปและไปทำไม ตามมาดูกัน




แล้วเราจะไปเที่ยวเชอร์โนบิลกันทำไม ?


ทางการยูเครนเพิ่งอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเมืองเชอร์โนบิล (เฉพาะโซนปลอดภัย) เมื่อปี 2010 และจำนวนนักท่องเที่ยวก็สูงขึ้นทุก ๆ ปี

ผมเชื่อว่า นักท่องเที่ยวแต่ละคนก็มีเหตุผลที่แตกต่างกันไป ในการไปเที่ยวเมืองร้างแห่งนี้ แต่สำหรับผมแล้วคือความสนใจในประวัติศาสตร์โลกและความอยากรู้อยากเห็นนี่แหละ ได้ยินมาตั้งแต่เด็ก ๆ อยากเห็นโลก post-apocalypse ว่ามันเป็นอย่างไร เมืองที่อยู่ดี ๆ ก็ถูกทอดทิ้ง เมืองที่ทุกอย่างถูกแช่แข็งไว้ตั้งแต่ยุคโซเวียต มากว่า 30 ปี และดูจากรูปหรือวีดีโอในเนตมันไม่พอ ต้องเห็นด้วยตาตัวเอง


ของเล่น ร้องเท้านักเรียนหญิง และกระดาษโน๊ต


แล้วมันปลอดภัยเหรอ ?


ตั้งแต่ก่อนไปจนกลับมา เพื่อน ๆ ถามกันเยอะมากว่า ไปได้ไง? มันอันตรายไม่ใช่หรอ? มันปลอดภัยเหรอ?


หน้ากากถูกไว้ในตึกหนึ่งในเมือง

ความปลอดภัยเนี่ยเป็นความกังวลหลักเลย ก่อนไปเนี่ยใช้เวลาหลายวันในการศึกษามาก ๆ ทั้งอ่านบทความทั่วไป/การแพทย์ ตลอดจนถามเพื่อนยูเครน


สรุปคือจริง ๆ แล้วมนุษย์เรามีโอกาสได้รับรังสีชนิดต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว จากแสงอาทิตย์ อาคาร เครื่องใช้ไฟฟ้า เดินทางโดยเครื่องบิน หรือเวลาผ่านเครื่อง X-Ray มากบ้างน้อยบ้าง แตกต่างกันออกไป แต่จำนวนที่เราได้รับมันน้อยมาก ๆ จนไม่มีผลกับร่างกาย


ด้านหน้า Sports Complex ประจำเมือง

ธาตุกัมมันตรังสีนั้น ทำลายยาก ต้องให้ธรรมชาติเป็นคนชำระล้าง ซึ่งในโซนอันตรายที่เชอร์โนบิล ทางการยูเครนก็ไม่อนุญาตให้มนุษย์กลับไปอยู่อาศัยที่นั้นอีกอย่างน้อย 24,000 ปี แต่มีโซนที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวไปได้คือโซนที่รังสีอยู่ในระดับต่ำมาก บวกกับเราไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งจำนวนรังสีที่เราจะได้รับไม่มากพอที่จะมีผลกับร่างกาย อย่างไรก็ตามเราจะต้องปฏิบัติตามกฎของทางการอย่างเคร่งครัด ห้ามเดินเข้าป่า ห้ามออกนอกเส้นทาง ห้องลงไปนอนกับพื้น ห้ามเก็บผลไม้ไปรับประทาน และต้องเชื่อฟังไกด์ เพราะรังสีส่วนใหญ่อยู่ใต้พื้นดิน


สระว่ายน้ำภายใน Sports Complex ประจำเมือง

ก่อนออกจากเมือง นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องผ่านเครื่องตรวจรังสีเพื่อวัดระดับรังสีในร่างกาย ถ้าสูงกว่าปกติเขาก็ไม่ให้ออกจนกว่าจะชำระล้างจนสะอาด


หากเราปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด ก็ไม่ต้องกังวล โอกาสเกิดอันตรายแทบจะไม่มีเลย


ใครเล่น PUBG น่าจะจำสระนี้ได้


อยากไปแล้ว….ต้องไปยังไง ?


การไปเที่ยวเชอร์โนบิล จะต้องไปกับบริษัททัวร์ที่ได้รับการรับรองโดยทางการยูเครนแล้วเท่านั้น ถ้าอยู่ดี ๆ เช่ารถขับไปเลยเนี่ย....อดแน่ ๆ เหตุผลเพราะความมั่นคงและความปลอดภัยเลยครับ ในสถานที่นี้ มีหลายจุดเป็นโซนอันตราย (Exclusion Zone) ซึ่งยังมีธาตุกัมมันตรังสีสูงมากและเป็นอันตรายต่อมนุษย์

ต้องวางแผนเที่ยวล่วงหน้าหลายวัน เพราะบริษัททัวร์จะต้องส่งข้อมูลของเราให้กับทางการยูเครนตรวจสอบประวัติก่อน (ความมั่นคงล้วน ๆ) ซึ่งอาจใช้เวลาหลายวัน หลายบริษัทแนะนำให้จองทัวร์อย่างน้อย 10 วันก่อน


ซุปเปอร์มาร์เก็ตภายในเมืองเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา

ตุ๊กตาเด็กผู้หญิงถูกทิ้งไว้ มีหน้ากากเด็กอยู่ข้าง ๆ


ค่าทัวร์แพงไหม ? ต้องไปกี่วัน ?


ทัวร์เชอร์โนบิลจากกรุงเคียฟมีหลายประเภท สามารถจองไปได้ตลอดปี มีทั้ง Day Tour และ 2-3 Days Tour (พักโรงแรมในเมืองเชอร์โนบิลนี่แหละ)


ตลอดทางจะมีป้ายกัมมันตรังสี แปลว่าแถวนั้นมาค่ากัมมันตรังสีสูงมาก ห้ามเดินเข้าไป

Group Day Tour ราคาอยู่ที่ประมาณ 70-200 ดอลลาร์สหรัฐ โดยรถจะรับ-ส่ง เราจากโรงแรม ระยะเวลาทัวร์ประมาณ 10-12 ชม.


Private Day Tour ราคาประมาณ 400-600 ดอลลาร์สหรัฐ โดยรถจะรับ-ส่งเราจากโรงแรม ระยะเวลาทัวร์ประมาณ 10-12 ชม. เช่นกัน


ผมแนะนำว่า ถ้าเราคนไม่เยอะและอยากมีเวลาศึกษาสถานที่ หามุมถ่ายรูปสวย ๆ จัด Private Day Tour ไปเลย





ตึก Office ตึกหนึ่ง มาข้าวของเต็มไปหมด


สนามกิฬาในร่ม สามารถมองเห็นชิงช้าสวรรค์



ถ้าออกนอกทางเดินที่กำหนด จะเห็นได้ชัดว่าค่ากัมมันตรังสีสูงกว่าปกติมาก



สุดท้ายนี้

สุดท้ายนี้ ทุกครั้งก่อนเดินทางไปท่องเที่ยวทุกที่ เราต้องศึกษาเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวนั้น ๆ ให้ดี ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของเราเอง ถามคนหลาย ๆ กลุ่ม บอกครอบครัว/เพื่อนให้ทราบก่อนไป หากเกิดอะไรขึ้นกับเรา เขาจะได้รู้ว่าต้องถามหาเราที่ไหน และสำคัญมาก คืออย่าลืมทำประกันและเซฟเบอร์ของสถานเอกอัครราชทูตไทยไว้เผื่อฉุกเฉิน

อ่านข้อแนะนำท่องเที่ยวได้นี่ https://www.tiewplakmai.com/blog/beforetravel

เจอกันใหม่ทริปหน้าครับ !


ถ่ายหน้าป้ายเข้าเมืองก่อนกลับ

 

📷🚖📷🚘📷🚁📷🚗📷🚐📷🛴📷🚅📷🚢📷🛩️📷🚤📷⛵📷🛥️



ถ้าชอบช่วย Like, Comment และ Share เพื่อกำลังใจทำต่อด้วยครับบบบ ขอบคุณครับบบ



#เที่ยวแปลกใหม่ #เที่ยวยูเครน #ไปเที่ยวกัน #ยูเครน #เชอร์โนบิล #Chernobyl #pripyat #นิวเคลียร์ #Nulear #Europe #ยุโรป #โซเวียต #สหภาพโซเวียต

0 comments
bottom of page